CART

Total : 0 Products

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Karmakamet Aromatic “The Scent Explorer”

Karmakamet Aromatic “The Scent Explorer”

Date :

Categories
What's News

Karmakamet Aromatic

Discovering the World of Scents


กลิ่น อนุภาคทางเคมี ที่กระจายตัวอยู่ในอากาศ โดยสิ่งมีชีวิตนั้นสามารถรับรู้ได้ด้วยอวัยวะรับกลิ่น นั้นก็คือ จมูก กลิ่นโดยทั่วไปแล้วแบ่งเป็นกลิ่นหอม และกลิ่นเหม็น แตกต่างกันออกไปโดยส่งผลต่อระดับความพึงพอใจของทั้งมนุษย์ และสัตว์ โดยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันมีการนำประโยชน์ของกลิ่นแต่ละกลิ่นจากทุกสิ่งที่มีกลิ่นมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน



ในประวัติศาสตร์ การใช้กลิ่น ถูกค้นพบเมื่อหลายพันปีก่อน เกิดขึ้นจากมนุษย์ ที่มีการเริ่มใช้งานผัสสะทั้งหมดของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หู ตา จมูก มือ ลิ้น พัฒนาสิ่งต่างๆ ที่ใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ เพื่อเติมเต็มทุกคำถาม และความต้องการของตนในทุกๆ ด้าน เฉกเช่นเดียวกับสมัยก่อนตามบันทึกที่มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผลิตแต่เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานของตัวเองเท่านั้น ที่จะถูกแบ่ง และพัฒนาไปตามแต่ละยุค เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากเครื่องมือเครื่องใช้แล้วก็ยังมีในเรื่องของ เครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้าต่างๆ รวมไปถึงเครื่องหอม ซึ่งก็ยังไม่มีที่มาแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มีการระบุถึงการใช้งานว่ามีใช้มาตั้งแต่ยุคโบราณจากหลากหลายอารยธรรม และแหล่งที่มา และต่างออกไปจากเรื่องเล่า ความเชื่อ ประเพณีพื้นเมืองต่างๆ ของแต่ละอารยธรรม และส่วนผสมต่างๆ ที่แตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับแหล่งที่มา ที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องหอมซึ่งมักจะเป็นในแถบเมโสโปเตเมีย เปอร์เซีย และอียิปต์



1. Chinese Peony : สัมผัสกับกลิ่นหอมของราชาเหล่าดอกไม้ อย่าง Chinese Peony หรือที่รู้จักกันในชื่อ โบตั๋น ดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศจีน เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย ตอนใต้ของยุโรป และตะวันตกของอเมริกาเหนือ มีลักษณะของใบเป็นใบประกอบ มีแฉกลึก ดอกใหญ่ และมีกลิ่นหอม มีหลายสี เช่น แดง บานเย็น เหลือง จนถึงขาว ปลูกในดินร่วนซุย ชอบขึ้นในที่ชื้น เป็นพืชที่ชอบความเย็น ดอกจะบานเต็มที่ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย ซื่อสัตย์ โชคลาภ เมตตา และเป็นดอกไม้ที่ใช้แสดงถึงความภาคภูมิใจ และเกียรติยศ ส่งกลิ่นหอมหวาน นุ่ม ละมุน โทน Floral เจือกับความสะอาดสดชื่น ทำให้รู้สึกสบายทุกครั้งที่ได้กลิ่น


2. English Bluebell : กลิ่นหอมของดอกไม้ที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลก อย่าง English Bluebell ดอกไม้รูปทรงระฆังสีน้ำเงินปนม่วง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นพืชป่าพบมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชอบอาศัยอยู่ในเขตอากาศเย็นแต่มีแสงส่องถึงรำไร เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ และถูกให้ความหมายว่าเป็นดอกไม้แสนอ่อนโยน ความเคารพนับถือ ความซื่อสัตย์ และส่งกลิ่นหอมหวานในโทนดอกไม้ ( Floral) ทั้งยังเคล้ากับความสดชื่น เจือกับกลิ่นเขียวจางๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล



3. Italian Bergamot : ความลับของกลิ่นหอม ที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งราชาแห่งความหอมสดชื่น อย่าง Italian Bergamot หรือ มะกรูด อีกหนึ่งกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมอย่างมากในการนำไปปรุงเป็นกลิ่นหอมของน้ำหอม และในอุตสาหกรรมเครื่องหอมหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าชื่อที่ใช้งานกันทั่วไปอาจจะเป็น มะกรูด แต่กลิ่นของ อิตาเลี่ยน เบอร์กามอท นั้นไม่เหมือนกับมะกรูดสายพันธุ์ทั่วไปที่เราต่างพบเจอ เพราะสายพันธุ์อิตาเลียนมีกลิ่นหอมที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นกลิ่นโทน ซีตรัส เป็นโน๊ตยอดนิยม มีกลิ่นหอมหวาน สดชื่น เจือกับความเขียวและเปรี้ยวฝาดจางๆ ให้ความรู้สึดสดชื่น และมีพลัง


4. Green Yarrow Leaves : สัมผัสกลิ่นของธรรมชาติ กับ Green Yarrow Leaves หรือ ใบของต้นแยร์โรว์ หรือ อชิเลีย เป็นพืชอายุนานกว่า 2,000 ปี มีถิ่นกำเนิดทั่วมุมโลกทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่วนดอกมีหลายสี เช่น สีขาว เหลือง ชมพู แดง เป็นพืชที่สามารถนำมาใช้งานได้ทุกส่วน ทั้งดอก ลำต้น ใบ โดยส่วนของดอก และใบสามารถนำมารับประทานได้ และยังนำไปพัฒนาเป็นอาหาร ยา รวมถึงเครื่องหอม มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอก บรรเทาวิตกกังวล นอนไม่หลับ ระบบทางเดินหายใจ Green Yarrow Leaves มีกลิ่นที่สะอาด หอม เจือกับความเปรี้ยวฝาด และแทรกด้วยความเขียวสดชื่น คล้ายกับหญ้าที่ตัดใหม่ ที่ปลายกลิ่นนั้นจะเจอกับความสไปซี่เล็กๆ ชวนให้ผ่อนคลายความรู้สึกได้เป็นอย่างดี




5. Fresh Yellow Tea Leaves : ค้นพบความหอมที่สกัดกลั่นด้วยวิธีที่ซับซ้อนที่สุดอย่าง Fresh Yellow Tea Leaves หรือ ใบชาเหลือง กลิ่นหอมที่สกัดมาจากใบชาที่มีขั้นตอนในการปลูก และดูแลรักษาอย่างปราณีตที่สุดในตระกูลชา โดยเฉพาะกรรมวิธีการผลิตพิถีพิถันหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บใบชาแล้วนำมาม้วนเพื่อเก็บน้ำมันใบชาไว้ พอม้วนเสร็จจึงนำไปทำให้แห้ง เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนสี กลิ่นที่ได้จะเป็นกลิ่นหอมสะอาด สดชื่น เจือกลิ่นเขียวฝาดเล็กๆ ที่ปลายกลิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของกลิ่นใบชาเหลือง ให้ความรู้สึกสบาย กระฉับกระเฉงทุกครั้งที่ได้กลิ่น กลิ่นหอมของชาเหลืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากกลิ่นหอมของชาชนิดอื่นๆ




6. Indonesian Pink Pepper : ย้อนเวลาไปสัมผัสกลิ่นหอม ที่ถูกค้นพบกว่า 3,000 ปี กับ Indonesian Pink Pepper หรือ พริกไทยชมพู มีต้นกำเนิดจากหลากหลายที่ ไม่ว่าจะพื้นเมืองในแถบตอนใต้ของประเทศอินเดีย แถบทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน มาดากัสการ์ มักนำมาทำเป็นเครื่องปรุงอาหารเป็นหลัก เนื่องจากมีกลิ่นฉุน และรสชาติเผ็ดร้อนเฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยม และถูกส่งต่อกันไปในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงยังนำมาทำเครื่องหอมที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นของเครื่องเทศ และหลังจากใช้งานไปสักพักหนึ่งจะเจอกับความอบอุ่นเจืออยู่ที่ปลายกลิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโทนกลิ่นสไปซี่ ให้ความรู้สึกโล่งสบายทุกครั้งที่ได้กลิ่น



Karmakamet Aromatic อยากชวนคุณออกเดินทางไปค้นพบความลับของ กลิ่น ไปพร้อมๆ กับ นักปรุงกลิ่น แห่ง Karmakamet Aromatic ที่จะพาคุณไปท่องโลกของกลิ่นที่เต็มไปด้วยความลับ และความน่าค้นหา เพื่อให้ได้มาซึ่งกลิ่นหอมจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้คุณได้เข้าถึงกลิ่นที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดกับ Karmakamet Aromatic “The Scent Explorer” 6 กลิ่นใหม่สุดพิเศษ


SHARE: